เปิดบริการทุกวัน |
||||||||||||||
โรคแพ้โปรตีนในนมวัว เกิดจาก การแพ้โปรตีนในนมวัว เพราะเยื่อบุผนังลำไส้ทารกยังไม่เจริญเติบโตดีพอ เมื่อทารกกินนมผสม(นมวัว) โปรตีนจากนมวัว จะถูกดูดซึมเข้าไปพบกับระบบภูมิต้านทานภายในร่างกายทารก ก่อให้เกิดการแพ้ขึ้น อาการของทารกมากมายในอดีต ที่ไม่รู้สาเหตุ แต่ในขณะนี้เริ่มรับการพิสูจน์อย่างชัดเจนว่าเกิดจากการแพ้โปรตีนในนม วัว ยกตัวอย่าง ทารกที่ร้องกวนในช่วงอายุ 2-3 สัปดาห์แรกของชีวิตที่ทางการแพทย์เรียกว่า โคลิก นั้น ในอดีตเราจะบอกว่าร้องกวน 100 วัน ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไว้ 2-3 เดือนเดี๋ยวก็หายเอง ซึ่งก็เป็นจริงเช่นนั้น คือจะหายได้เอง แต่กว่าอาการจะหายไป ก็ทำให้คนทั้งครอบครัวอดหลับอดนอนไปหลายเดือน แต่ในขณะนี้เราพบว่า การร้องกวนโคลิกนี้มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการแพ้โปรตีนในนมวัว เมื่องดนมวัวหรือนมผสมโดยให้นมชนิดอื่น ที่ไม่ใช่นมวัว อาการก็จะหายไปภายใน 2 วัน และทารกที่ได้รับนมแม่อยู่แล้วเกิดอาการ โคลิก เมื่อให้แม่งดดื่มนมวัว ก็พบว่าอาการ โคลิก ของทารกหายไปภายใน 2 วัน เช่นกัน การค้นพบเช่นนี้เป็นการยืนยันว่า นมวัวมีส่วนทำให้เกิดโคลิก โรคแพ้โปรตีนนมวัว เป็นโรคที่ควรป้องกันไม่ให้เกิดกับลูก เนื่องจาก - วินิจฉัยยาก ต้องมีการทดสอบ ทดลอง หลายครั้ง จึงจะบอกได้- อาการเหมือน เด็กป่วย เป็นโรคทั่วไป ทำให้หลงทางในการให้การวินิจฉัย ได้ เช่น
สังเกตเห็นเป็นวงแดง ๆ ขนาดไม่เท่ากัน และทารกมักจะคันร่วมด้วย และเห็นจะเป็นอาการเดียวที่จะทำให้แพทย์คิดถึงเรื่องการแพ้โปรตีนในนมวัว การเปลี่ยนเป็นนมอื่นที่ถูกชนิดก็จะทำให้อาการผื่นลมพิษหายได้ภายใน 2-3 วัน แต่ยังมีผื่นอีกชนิดหนึ่งที่เป็นฝ้าขาวตามผิวหนัง โดยผิวหนังภายในฝ้าขาวนี้ ลูบแล้วจะรู้สึกสาก ๆ และมีผิวหน้าหนาตัวขึ้น ที่ทางการแพทย์ eczema ถือว่ามีสาเหตุจากการแพ้โปรตีนในนมวัวได้เช่นกัน ถ้าไม่ได้รับการวินิจฉัย แต่ใช้วิธีรักษาโดยการให้ยาทาและยา รับประทาน ก็จะทำให้ผื่นนี้หายได้เช่นกัน แต่ภายใน 1-2 สัปดาห์ ก็จะกลับมาเป็นใหม่ จึงต้องให้ยาทาและยารับประทานอยู่เป็นประจำ แต่ถ้าให้การเปลี่ยนเป็นนมชนิดอื่นที่ไม่ใช่นมวัว และถูกชนิดก็จะทำให้ผื่นหายได้ภายใน 2 สัปดาห์ โดยไม่ต้องให้ยาทาหรือยารับประทานใด ๆ เลย
- เป็นโรคเรื้อรัง ลูกเสียเวลาเติบโต เวลาป่วยก็อารมณ์ไม่ดี - ค่ารักษาแพงมาก - เด็กที่เป็นโรคแพ้โปรตีนนมวัวในวัยทารก จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่นในอนาคต โรคนี้ มีโอกาสหายได้เมื่อลูกโตขึ้น ดังนั้นลูกอาจป่วยเป็นโรคนี้โดยเราไม่รู้ ซึ่งโดยร้อยละ 50 จะเลิกแพ้นมวัวที่อายุ 1 ปีร้อยละ 70 จะเลิกแพ้นมวัวที่อายุ 2 ปีร้อยละ 85 จะเลิกแพ้นมวัว ที่อายุ 3 ปี ให้ลูกกินนมแม่ ช่วยป้องกัน โรคแพ้โปรตีนนมวัว เนื่องจาก - ลูกไม่แพ้ โปรตีนในนมแม่ - ในนมแม่มี ภูมิคุ้มกัน ช่วยจับกับสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอาหาร ทำให้สารเหล่านั้นไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย- การกินนมแม่ช่วยลดการติดเชื้อในลำไส้ พบว่าถ้าลูกมีการติดเชื้อ หรือลำไส้อักเสบ จะทำให้รับสารก่อภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น แม่ไม่ควร ดื่มนมวัว มาก ทั้งในระยะตั้งครรภ์ และระยะให้นมลูก ปัจจุบันมีการโฆษณา ให้แม่ดื่มนมวัวมากๆ โดยมีวิธีโฆษณาที่สื่อว่า ลูกในท้องจะแข็งแรง สมองดี แม่จะได้รับแคลเซียมเพียงพอ พบว่า ถ้าให้แม่ 100 คนดื่มนมวัว แม่ 53-63 คน จะตรวจพบโปรตีนนมวัวในน้ำนมแม่ได้หลังดื่มนม 1-6 ชั่วโมง การดื่มนมวัวมากไป จะเพิ่มโอกาสให้ โปรตีนนมวัวผ่านแม่ไปกระตุ้นให้ลูกเกิดปัญหาการแพ้ได้ ดังนั้น ถ้าคุณแม่ สามารถกินอาหารธรรมชาติ ให้ครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ ก็ทำให้ลูกในท้องแข็งแรง สมองดีได้ และถ้าต้องการแคลเซียมสามารถหาจากแหล่งอื่น เช่นปลาตัวเล็กตัวน้อย ผักใบเขียวเข้ม เต้าหู้ งาดำ เป็นต้น ถ้าชอบดื่มนมวัว ควรดื่มวันละไม่เกิน 2 แก้ว ไม่ใช่ดื่มเป็นลิตรๆ เมื่อสงสัยว่าลูกจะแพ้นมวัว หมอมักจะเจาะเลือดหรือทำการทดสอบการแพ้ทางผิวหนัง แล้วมักจะยึดถือผลของการทดสอบนี้ว่า ลูกจะแพ้นมวัวหรือไม่ ซึ่งตามความเป็นจริงมีไม่ถึง 10% ที่บอกได้จากการเจาะเลือดหรือด้วยการทดสอบทางผิวหนัง จึงทำให้ลูกไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าแพ้นมวัว และได้รับการรักษาที่ปลายเหตุ คือรักษาตาม อาการเท่านั้น ทำให้ลูกต้องพึ่งยาตลอดเวลา แต่ถ้ารู้ว่าแพ้นมวัว และเปลี่ยนเป็นนมชนิดอื่นที่ลูกไม่แพ้ ก็จะทำให้ลูกหายขาดได้เลย โดยไม่ต้องรับประทานยาใด ๆ ทั้งสิ้น นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว นมชนิดอื่นที่ไม่ใช่นมวัวและมีผู้นิยมนำมาใช้รักษาโรคแพ้นมวัว ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้คือนมผงที่ได้ปรุงแต่งเพื่อให้มีสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสำหรับทารกที่แพ้นมวัว สามารถแบ่งได้เป็น 2 จำพวก จำพวกแรกคือ นมที่ไม่มีโปรตีนจากนมวัวเลย ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ
นมเหล่านี้จะมีราคาแพงกว่านมผงทั่วไป ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ซื้อมารับประทานสำหรับป้องกัน เมื่อลูกยังไม่มีอาการแพ้นมวัว ทั้งนี้ถ้าลูกไม่แพ้นมวัว การได้รับนมวัวจึงมีราคาถูกกว่า และสามารถดูดซึมสารอาหารในนมวัวได้ดีกว่านมทางเลือกเหล่านี้ นอกเหนือจากราคาแล้ว นมทางเลือกเหล่านี้จะมีรสชาติและกลิ่นที่ต่างจากนมวัวมาก โดยเฉพาะนมถั่วเหลืองนั้นจะมีกลิ่นค่อนข้างแรง ถ้าลูกมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป แล้วเริ่มเปลี่ยนนมมาเป็นนมจากถั่วเหลือง ลูกอาจจะไม่ยอมรับในรสชาติและกลิ่นได้ และเช่นกันนมวัวที่มีการย่อยโปรตีนไปบางส่วนจะทำให้นมนั้นมีรสเปรี้ยว และขมขึ้นมา ลูกหลังอายุ 6 เดือนอาจจะไม่ยอมรับ เมื่อโปรตีนในนมวัวมีการย่อยให้ละเอียดยิ่งขึ้น รสชาติของ นมก็จะเปรี้ยวและขมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ นมที่มีแต่กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบ หลักของโปรตีนจะมีรสชาติเปรี้ยวมาก ซึ่งทารกจำนวนมากจะไม่ยอมดื่มเลย จึงอาจจะพบปัญหานี้เมื่อเปลี่ยนนมให้ลูกหลังอายุ 6 เดือน เมื่อลูกแพ้โปรตีนในนมวัว มักจะแพ้โปรตีนในอาหารบางชนิด โดยขอให้หลีกเลี่ยงอาหารอื่น ๆ ที่ลูกมีโอกาสจะแพ้ได้สูง คือ ถั่ว ไข่ อาหารทะเล และแป้งสาลี ดังนั้นเมื่อลูกได้รับการวินิจฉัยเป็นที่แน่นอนแล้ว ว่าแพ้นมวัว ครั้นเมื่อถึงคราวจะให้อาหารเสริม จึงควรหลีกเลี่ยง ถั่วที่มีเปลือกทุก ชนิด เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง หรือถั่วเขียว การหลีกเลี่ยงไข่ ก็ควรหลีกเลี่ยงทั้งไข่แดงและไข่ขาวของสัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไข่เป็ดหรือไข่นกกระทา ควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเลทุกชนิด คือ กุ้ง หอย ปู ปลา โดยการหลักเลี่ยงนั้น ควรรอจนลูกอายุ 2 ขวบ จึงค่อยลองให้ลูกรับประทานอาหารเหล่านี้ทีละอย่าง การลองทดสอบว่าลูกจะแพ้อาหารเหล่านี้หรือไม่นั้น ควรลองทีละอย่าง ถ้าไม่เคยแพ้มาก่อน จะลองให้ปลาหรือไข่ก่อนก็ได้ โดยควรทานอาหารเหล่านี้ทีละอย่าง แต่เพียงน้อย ๆ ในครั้งแรก แล้วรอดูอาการตลอด 2 สัปดาห์ ถ้าไม่แสดงอาการว่าแพ้ก็สามารถให้มากขึ้นได้ใน 2 สัปดาห์ต่อมา เมื่อครบ 4 สัปดาห์จึงเริ่มทดสอบอาหารชนิดที่สอง โดยมีหลักเกณฑ์ว่าจะใช้เวลาในการทดสอบอาหารแต่ละชนิด 4 สัปดาห์ ถ้าหากทดสอบว่า แพ้อาหารชนิดใดก็ควรงดอาหารชนิดนั้นไปอย่างน้อย 6 เดือน จึงค่อยทดสอบการแพ้ในครั้งต่อไป การทดสอบว่า ลูกหายจากการแพ้นมวัวหรือไม่ ควรทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อาจจะทำที่บริเวณผู้ป่วยนอกหรือทำเป็นผู้ป่วยใน โดยแพทย์ควรเตรียมความพร้อมในกรณีที่ลูกอาจจะมีปฏิกิริยาแพ้ต่อนมวัวอย่างรุนแรง จะได้แก้ไขได้ทัน และเช่นกัน ถ้าภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากลูกได้ดื่มนมวัวแล้วไม่เกิดอาการใด ๆ ก็ควรสังเกตอาการต่อไปอีก 2 สัปดาห์ โดยระหว่างนี้ลูกไม่ดื่มนมวัวอีก ถ้าลูกไม่มีอาการแพ้ใด ๆ เกิดขึ้น ก็ควรให้ลูกดื่มนมวัวทุกวัน แล้วสังเกตอาการต่อไปอีก 2 สัปดาห์ ถ้าลูกไม่มีอาการใด ๆ เลย ก็แสดงว่าลูกหายจากการแพ้โปรตีนในนมวัวแล้ว โรคแพ้โปรตีนในนมวัว รวมทั้งแพ้ อาหารต่าง ๆ ของลูกนั้น เป็นโรคพิเศษที่เกิดขึ้นแก่ลูกก่อนอายุ 1 ขวบ และลูกจะหายจากการแพ้โปรตีนในอาหารที่กล่าวมาข้างต้นได้เกือบหมด เมื่อลูกมีอายุ 2 ขวบ มีเด็กบางคนเท่านั้นที่อาจจะหายช้ากว่าคนอื่น จึงควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่า ลูกหายขาดจากการแพ้นมวัวหรือแพ้อาหารแล้วหรือยัง ถ้ายังแพ้อยู่ก็ไม่ควรให้รับประทานอาหารนั้น ๆ เพราะถ้าฝืนให้ต่อไป จะทำให้ลูกเป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรังและมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้
ที่มา: คอลัมน์ Good Food for Health : เมื่อลูกแพ้นมวัว (ตอนที่ 1-2-3) พญ.ปิยาภรณ์ บวรกีรติขจร
|
Visitors : |
|||||||||||||
Copyright © 2007-2010 Sahaphan Milk Center Dot Com . All rights reserved | Developed by jmaCHANNEL |
||||||||||||||