คุณค่าทางโภชนาการ
อาหารหลักของเด็กวัยแรกเกิดจนถึงหนึ่งขวบปี คือ " น้ำนม " และน้ำนมที่ดีที่สุดสำหรับเด็กวัยนี้ก็คือ นมแม่ ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่า มีคุณประโยชน์กับลูกมากที่สุด เพราะนมแม่มีทุกอย่างที่ลูกต้องการ อันได้แก่
-
โปรตีนในน้ำนมแม่ซึ่งมีกรดอะมิโนที่แตกต่างจากนมผสมจึงย่อยง่าย และสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่
-
คาร์โบไฮเดรตที่พบมากที่สุดในน้ำนมแม่ คือ แลคโตส ซึ่งช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมในลำไส้
-
ไขมันในน้ำนมแม่มีกรดไขมันที่จำเป็นครบถ้วน น้ำย่อยไขมันที่มีในนมแม่ช่วยย่อยไขมันเพื่อให้ทารกใช้ไขมัน เป็นแหล่งพลังงานได้อย่างเต็มที่
-
โซเดียมและเกลือแร่อื่นๆ ในนมแม่มีน้อยกว่านมผสม ไตของลูกจึงไม่ต้องทำงานหนักเกินไปในระยะเริ่มแรกของชีวิต
ใน 2-3 วัน หลังคลอด น้ำนมแม่จะข้น มีสีเหลืองเข้มเรียกว่า "หัวน้ำนม" หรือ "นมน้ำเหลือง" จึงมีภูมิคุ้มกันโรคสูงมาก
เป็นเสมือนวัคซีนหยดแรกของชีวิตลูก ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ป้องกันโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้ในน้ำนมแม่ ยังมีสารที่ปกป้องลำไส้จากการติดเชื้อซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายของลูกให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอดอีกด้วย
***ปัจจุบัน แม่จำนวนไม่น้อยไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองได้ เนื่องมาจากหลายสาเหตุ สิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกก็คือคุณค่าโภชนาการของอาหาร ต้องใกล้เคียงกับนมแม่ และมั่นใจได้ว่าจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพลูกน้อยให้แข็งแรงและช่วยลดปฏิกิริยาการเกิดภูมิแพ้ได้
มารู้จักสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นกันดีกว่า
**กรดอัลฟาไลโนเลนิก (Alfa-Linolenic Acid) หรือโอเมก้า 3 หรือดีเอชเอ (Docosahexaenoic Acid หรือ DHA) และกรดอาราชิโดนิก หรือ เออาร์เอ(ARA) **
จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่เยื่อหุ้มเซลล์ ป้องกันไม่ให้ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆปล่อยสารเข้าออกมากเกินไป ช่วยให้การทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ให้เป็นไปอย่างสมดุล นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองและสายตาให้มีพัฒนาการที่ดี
**แลคโตส (Lactose)**
จัดเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่มีปริมาณมากที่สุดในน้ำนมแม่เป็นสารอาหารสำคัญที่ให้พลังงานและให้สาร Galactose ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบในเนื้อเยื่อ ประสาท และอวัยวะสำคัญอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยร่างกายในการดูดซึมแคลเซียมอีกด้วย ในน้ำนมแม่จะมีส่วนประกอบของแลคโตสมากกว่าในน้ำนมของสัตว์ ชนิดอื่นๆ
**ทอรีน (Tuarine)**
เป็นกรดอะมิโนที่พบมากที่สุดในนมแม่ และเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับทารกแรกเกิด
- ช่วยในเรื่องของการทำงานของสมองและจอประสาทตา
- ช่วยเพิ่มจำนวนของเซลล์ประสาท
- ช่วยใ นกระบวนการครองธาตุ (Metabolism) ของคลอไรด์ใน น้ำดี
- ช่วยในการขัีบสารภายในร่างกาย หัวใจและตับ
**คาร์นิทีน (Carnitine)**
เป็นสารไนโตรเจนที่ทำหน้าที่ดึงเอาไขมันจากสมองไปใช้ในเวลาที่สมองต้องการพลังงานมากๆ จึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งในเด็กเล็ก เพราะสมองทุกส่วนกำลังพัฒนาจึงใช้พลังงานมาก และที่สำคัญสารคาร์นิทีนนี้จะมีอยู่ในนมแม่เท่านั้น ลูกไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้
**ธาตุเหล็ก (Iron)**
จะช่วยสร้างสารสื่อนำประสาท(neurotransmitter)ซึ่งเป็นสารเคมีที่เซลล์ประสาทสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการส่งกระแสประสาทจากเซลล์ประสาทตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่ง แล้วยังช่วยสร้างแผ่นไขมัน (myelin) ที่ช่วยหุ้มปลายประสาทและเส้นประสาทอีกด้วย
**โคลีน (Choline)**
เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ และเนื้อเยื่อต่างๆ รวมถึงสารสื่อประสาทที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้าง การเรียนรู้และความจำ พบมากในไข่แดง นม ถั่วเหลือง ธัญพืชต่างๆ
**โฟเลท (Folate)**
ช่วยพัฒนาเซลล์สมองและระบบประสาทของให้สมบูรณ์ ป้องกันความผิดปกติของสมองและไขสันหลัง พบมากในตับ ผักใบเขียว บล๊อคโคลี่ กล้วยน้ำว้า ฯลฯ
**ธาตุเหล็ก (Iron)**
เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง มีบทบาทในการนำพาออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยพัฒนาสติปัญญาและการเีรียนรู้ พบมากใน เนื้อปลา ถั่วเขียว ถั่วเหลืองใบตำลึง ฯลฯ
**เวย์โปรตีน (Whey-Protein)**
ช่วยนำสารโปรตีนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปรับอัตราส่วน เมไทโอนีน หรือซีสทีน ให้ใกล้เคียงนมแม่ และลดปริมาณของไทโรซีนและเพนิลอลานีน ที่ยากต่อการครองธาตุ ( Metabolism)สารอาหารให้ได้โปรตีนที่อ่อนนุ่มในลำไส้เพื่อช่วยในการย่อย (อัตราส่วนโปรตีนเวย์ : เคซีน 60:40 )
**นิวคลีโอไทด์ (Nucleotides)**
ช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยกดการตอบสนองต่อสารแปลกปลอมซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยลดปฏิกิริยาภูมิแพ้
**กรดไซอะลิค (Sialic acid)**
ซึ่งมีความสำคัญกับพัฒนาการของสมองเช่นเดียวกับ DHA และ AA พบมากในหัวน้ำนมแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนด และจะลดปริมาณลงภายในระยะสามเดือนแรก ช่วยให้สมองเรียนรู้ได้ดี และมีความจำ
 |
|
 |
Visitors :
